ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่ ราคาเป็นอย่างไร ราคาที่ตรวจครรภ์แพงไหม เป็นคำถามที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนสงสัย เพราะคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์แล้วหรือไม่ แบบนี้ท้องหรือไม่ท้อง แล้วการใช้ที่ตรวจครรภ์ จะแม่นจริงไหม??? ถ้าอยากเตรียมตัวรับมือกับข่าวดี ต้อนรับสมาชิกใหม่ตัวน้อย แต่ใช้ที่ตรวจครรภ์แล้วทราบผลเลยจริงหรือไม่ เชื่อได้แค่ไหน กลัวจะดีใจเก้อ วันนี้ Mamastory จะพาไปทำความรู้จักกับที่ตรวจครรภ์ให้มากขึ้นค่ะ
ที่ตรวจครรภ์คืออะไร?
การทดสอบการตั้งครรภ์ คือ การทดสอบที่ใช้เพื่อระบุว่าผู้หญิงตั้งครรภ์หรือไม่ การทดสอบการตั้งครรภ์มีหลายประเภท แต่ที่พบมากที่สุดคือการทดสอบปัสสาวะ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งที่บ้าน หรือคลินิก
แต่การทดสอบการตั้งครรภ์บางอย่าง มีความละเอียดอ่อนมากกว่าแบบอื่น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องอ่านคำแนะนำอย่างละเอียด ก่อนทำการทดสอบ การทดสอบที่ละเอียดอ่อนที่สุดสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้เร็วถึง 4 วัน หลังจากการปฏิสนธิ
การทดสอบการตั้งครรภ์คืออะไร?
การทดสอบการตั้งครรภ์ คือ การทดสอบที่ใช้เพื่อระบุว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือไม่ การทดสอบการตั้งครรภ์มี 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ การตรวจปัสสาวะและการตรวจเลือด การทดสอบปัสสาวะเป็นแบบทดสอบการตั้งครรภ์ ที่พบได้บ่อยที่สุด ส่วนการตรวจเลือดจะไม่ค่อยเป็นที่นิยม และมักทำได้ที่โรงพยาบาล หรือคลินิกเท่านั้น
เมื่อไรที่ควรทดสอบการตั้งครรภ์
หากคุณเป็นคนที่กำลังพยายามตั้งครรภ์ อาจจะกำลังสงสัยว่า ควรตรวจการตั้งครรภ์เมื่อใด ซึ่งคำตอบไม่ตายตัวเสมอไป เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่าง ที่อาจส่งผลต่อเวลา ที่จะได้รับผลลัพธ์ที่เป็นบวก
สิ่งสำคัญขั้นแรก คือต้องเข้าใจว่า การทดสอบการตั้งครรภ์ทำงานอย่างไร การทดสอบส่วนใหญ่จะตรวจหาฮอร์โมน human chorionic gonadotropin (hCG) ในปัสสาวะของคุณ ฮอร์โมนนี้จะผลิตเฉพาะเมื่อคุณตั้งครรภ์ ดังนั้นการมีฮอร์โมนนี้ จึงเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่าคุณกำลังตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม ระดับเอชซีจีอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ผู้หญิงบางคนอาจมีระดับสูงตั้งแต่เนิ่น ๆ ในขณะที่คนอื่น ๆ อาจตรวจไม่พบ จนกระทั่งหลังจากประจำเดือนขาดไปครั้งแรก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรออย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ หลังจากประจำเดือนขาด ก่อนที่จะทำการทดสอบการตั้งครรภ์
ซึ่งเวลาที่ดีที่สุด ในการทดสอบการตั้งครรภ์ คือ 1 สัปดาห์ หลังจากประจำเดือนขาด หากคุณทดสอบก่อนหน้านี้ หรือตรวจเร็วเกินไป อาจได้รับผลลบปลอม หมายความว่า การทดสอบบอกว่าคุณไม่ได้ตั้งครรภ์ ทั้งที่จริง ๆ แล้ว กำลังตั้งครรภ์อยู่นั่นเอง ในทางกลับกัน หากรอการทดสอบนานเกินไป ก็อาจได้รับผลบวกลวง ที่หมายความว่าคุณตั้งครรภ์ ทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งครรภ์
บทความที่เกี่ยวข้อง : เช็กให้ชัวร์ ! สรุปแล้วเราตั้งครรภ์หรือไม่ ตรวจครรภ์ตอนไหนดีให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ
ประเภทของการทดสอบการตั้งครรภ์
การทดสอบการตั้งครรภ์ ใช้เพื่อระบุว่าผู้หญิงตั้งครรภ์หรือไม่ มีการทดสอบการตั้งครรภ์หลายประเภท ได้แก่ :
- การทดสอบการตั้งครรภ์ที่บ้าน : การทดสอบการตั้งครรภ์ที่บ้าน สะดวกและใช้งานง่าย โดยทั่วไปจะทำกับปัสสาวะ
- การตรวจเลือด : การตรวจเลือดมีความแม่นยำมากกว่า การทดสอบการตั้งครรภ์ที่บ้าน แต่จำเป็นต้องไปพบแพทย์
- อัลตราซาวนด์ : อัลตราซาวนด์สามารถใช้เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ได้
ความแม่นยำของที่ตรวจครรภ์
สำหรับคนที่สงสัยว่า การใช้ที่ตรวจครรภ์ จะมีความแม่นยำมากกว่า การไปเจาะเลือดตรวจหรือไม่ ขอบอกเลยว่า ปัจจุบันชุดตรวจครรภ์สมัยนี้ ได้มีการพัฒนามากขึ้น ทำให้ผลตรวจโดยทั่วไปมีความแม่นยำมาก แต่ก็มีปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ด้วยเช่นกัน
ข้อสำคัญคือ ต้องใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ที่ออกแบบมาให้แม่นยำ ตั้งแต่วันแรกที่ขาดประจำเดือน การทดสอบการตั้งครรภ์บางอย่าง สามารถใช้ก่อนหน้านี้ได้ แต่ก็ไม่แม่นยำเท่า
ประการที่สองคือ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ จากเอกสารในกล่อง การทดสอบการตั้งครรภ์อย่างระมัดระวัง หากไม่ได้ใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกต้อง อาจให้ผลบวกลวงหรือผลลบลวงได้
และที่สำคัญที่สุด ยาและเงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่าง อาจส่งผลต่อความแม่นยำของการทดสอบการตั้งครรภ์ หากคุณกำลังใช้ยาใด ๆ หรือหากคุณมีอาการป่วยใด ๆ คุณควรปรึกษาแพทย์ ก่อนทำการทดสอบการตั้งครรภ์
วิธีอ่านการทดสอบการตั้งครรภ์
การทดสอบการตั้งครรภ์ หรือการทดสอบที่ใช้เพื่อระบุว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือไม่ มีชุดทดสอบการตั้งครรภ์มากมายในท้องตลาด และทั้งหมดทำงานโดยวัดระดับขอ hCG ในร่างกายของผู้หญิง ซึ่ง hCG เป็นฮอร์โมนที่ผลิตระหว่างตั้งครรภ์ และการมีอยู่ในร่างกายเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่า “กำลังตั้งครรภ์”
การทดสอบการตั้งครรภ์สามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีทั่วไปคือ การปัสสาวะด้วยแท่งที่มีแถบทดสอบ แถบทดสอบจะเปลี่ยนสีหากตรวจพบการมีอยู่ของเอชซีจี และการเปลี่ยนสีนี้สามารถใช้เพื่อระบุว่าตั้งครรภ์หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบการตั้งครรภ์ ที่สามารถทำได้ด้วยปากกา ซึ่งทำงานในลักษณะเดียวกับการทดสอบแบบแท่ง เพียงแค่ปัสสาวะบนแถบทดสอบที่อยู่ในปากกา และแถบจะเปลี่ยนสีถ้ามีเอชซีจี การทดสอบด้วยปากกาเหล่านี้ กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากใช้งานง่ายและสามารถทำได้ในบ้าน
ประโยชน์ของการทดสอบการตั้งครรภ์ที่บ้าน
การทดสอบการตั้งครรภ์ที่บ้าน เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยตนเอง ที่ช่วยให้ผู้หญิงทราบว่าตนเองตั้งครรภ์หรือไม่ การทดสอบการตั้งครรภ์ที่บ้าน มีความแม่นยำมากกว่า 99% เมื่อใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย และผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถรับผลลัพธ์ที่ต้องการได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
ประโยชน์ของที่ตรวจครรภ์
- สะดวกและใช้งานง่าย
- มีความเป็นส่วนตัวและสามารถทำได้ในบ้าน
- ราคาไม่แพงนัก
- มีความแม่นยำเมื่อใช้อย่างถูกต้อง
โดยสรุปแล้ว หากคุณผู้หญิงคนไหน ที่กำลังสงสัยว่า ตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือไม่ ควรใช้วิธีตรวจครรภ์ด้วยตนเอง ด้วยการซื้อที่ตรวจครรภ์ ที่มีขายตามท้องตลาด สามารถเลือกซื้อมาใช้ ได้ตามความถนัด หรือถ้าหากไม่แน่ใจในผลลัพธ์ สามารถซื้อแบบต่างยี่ห้อ ต่างรุ่นมาหลายอัน เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำก็ได้ค่ะ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจ สามารถถามเภสัชกรที่ร้านได้ หรือถ้าเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ จะเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ย่อมได้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คุณแม่ควรรู้! วิธีนับอายุครรภ์ นับอย่างไรให้ถูกต้องและแม่นยำ
ตรวจเลือดตอนตั้งครรภ์ ตรวจอะไรบ้าง? คุณแม่ควรเตรียมตัวอย่างไร
5 สัญญาณคลอดก่อนกำหนด แม่ท้องรู้ไว้ จะได้รับมือทัน!
ที่มา : 1